เครื่องคำนวณกำหนดคลอด

คำนวณกำหนดคลอด

คำนวณวันกำหนดคลอดของลูกน้อย

วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย

วัน

ค่าเริ่มต้น: 28 วัน

วันกำหนดคลอด
--
--
📅 ไทม์ไลน์การตั้งครรภ์
อายุครรภ์ปัจจุบัน --
ไตรมาส --
ประมาณวันปฏิสนธิ --
📋 เหตุการณ์สำคัญ
สิ้นสุดไตรมาส 1 --
สิ้นสุดไตรมาส 2 --
ครบกำหนด (37 สัปดาห์) --
📊 ความคืบหน้าการตั้งครรภ์
0 สัปดาห์ --% 40 สัปดาห์
ℹ️ เกี่ยวกับกำหนดคลอด

กำหนดคลอดคำนวณตามสูตร Naegele: LMP + 7 วัน - 3 เดือน + 1 ปี


มีเพียง 5% ของทารกที่คลอดตรงกำหนด ส่วนใหญ่คลอดภายใน 2 สัปดาห์ก่อนหรือหลังกำหนด


การตั้งครรภ์ปกติ: 37-42 สัปดาห์

วันกำหนดคลอดคืออะไร?

วันกำหนดคลอด (Due Date) หรือ Estimated Due Date (EDD) คือวันที่คาดว่าลูกน้อยจะคลอด กำหนดคลอดคำนวณจากสมมติฐานว่าการตั้งครรภ์ใช้เวลาประมาณ 40 สัปดาห์ (280 วัน) จากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย (LMP) หรือ 38 สัปดาห์ (266 วัน) จากวันปฏิสนธิ

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือกำหนดคลอดเป็นการประมาณ ไม่ใช่วันที่แน่นอน มีเพียงประมาณ 5% ของทารกที่คลอดตรงกำหนด การตั้งครรภ์ถือว่าครบกำหนดหากทารกคลอดระหว่างสัปดาห์ที่ 37 ถึง 42

วิธีคำนวณกำหนดคลอด

1. สูตร Naegele (จาก LMP)

วิธีที่พบบ่อยที่สุดซึ่งพัฒนาโดย ดร. Franz Naegele ในปี 1812:

กำหนดคลอด = LMP + 7 วัน - 3 เดือน + 1 ปี

หรือ: LMP + 280 วัน (40 สัปดาห์)

ตัวอย่าง: ถ้า LMP คือ 1 มกราคม 2567 กำหนดคลอดคือ 8 ตุลาคม 2567

2. จากวันปฏิสนธิ

หากคุณรู้วันปฏิสนธิ (วันที่ตั้งครรภ์):

กำหนดคลอด = วันปฏิสนธิ + 266 วัน (38 สัปดาห์)

3. จากอัลตราซาวด์

วิธีที่แม่นยำที่สุด โดยเฉพาะหากทำในไตรมาสแรก (สัปดาห์ที่ 8-12) แพทย์วัด CRL (Crown-Rump Length) เพื่อกำหนดอายุครรภ์

การปรับตามความยาวรอบเดือน

สูตร Naegele สมมติว่ารอบเดือน 28 วันโดยมีการตกไข่ในวันที่ 14 หากรอบเดือนของคุณต่างกัน:

ความยาวรอบเดือน การปรับกำหนดคลอด
25 วัน กำหนดคลอด - 3 วัน
28 วัน ไม่ต้องปรับ
30 วัน กำหนดคลอด + 2 วัน
35 วัน กำหนดคลอด + 7 วัน

ไทม์ไลน์การตั้งครรภ์

ไตรมาสแรก (สัปดาห์ที่ 1-12)

  • สัปดาห์ที่ 1-4: การปฏิสนธิและการฝังตัว
  • สัปดาห์ที่ 5-6: หัวใจเริ่มเต้น
  • สัปดาห์ที่ 8-10: อวัยวะหลักทั้งหมดเริ่มสร้าง
  • สัปดาห์ที่ 11-12: อัลตราซาวด์ครั้งแรก ความเสี่ยงแท้งลดลง

ไตรมาสที่สอง (สัปดาห์ที่ 13-26)

  • สัปดาห์ที่ 16-20: เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารก
  • สัปดาห์ที่ 18-22: อัลตราซาวด์โครงสร้าง สามารถรู้เพศได้
  • สัปดาห์ที่ 24: ทารกถือว่า "viable" (สามารถรอดชีวิตได้)

ไตรมาสที่สาม (สัปดาห์ที่ 27-40)

  • สัปดาห์ที่ 28: ตาสามารถเปิดและปิดได้
  • สัปดาห์ที่ 32: ปอดเกือบสมบูรณ์
  • สัปดาห์ที่ 37: ถือว่า "ครบกำหนด"
  • สัปดาห์ที่ 40: กำหนดคลอดมาตรฐาน
  • สัปดาห์ที่ 41-42: อาจต้องเร่งคลอด

💡 รู้หรือไม่?
ทารกที่คลอดในสัปดาห์ที่ 39 หรือ 40 มีผลลัพธ์สุขภาพดีที่สุด นี่คือเหตุผลที่แพทย์มักไม่แนะนำให้เร่งคลอดก่อนสัปดาห์ที่ 39 เว้นแต่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

ปัจจัยที่มีผลต่อวันคลอด

  • ประวัติครอบครัว: การคลอดก่อนกำหนดหรือเกินกำหนดอาจถ่ายทอดในครอบครัว
  • การตั้งครรภ์ครั้งก่อน: หากลูกคนแรกคลอดเร็ว/ช้ากว่ากำหนด อาจเกิดซ้ำ
  • สุขภาพของแม่: เบาหวาน ครรภ์เป็นพิษ อาจมีผลต่อเวลาคลอด
  • ครรภ์แฝด: มักคลอดเร็วกว่า (สัปดาห์ที่ 34-37)
  • เพศของทารก: ทารกหญิงมักคลอดเร็วกว่าเล็กน้อย

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?

ติดต่อแพทย์ทันทีหากมีอาการ:

  • เลือดออกทางช่องคลอด
  • ปวดท้องหรือเป็นตะคริวรุนแรง
  • น้ำคร่ำรั่ว
  • ทารกเคลื่อนไหวน้อยลงอย่างมาก
  • มีการบีบตัวของมดลูกสม่ำเสมอก่อนสัปดาห์ที่ 37
  • ปวดหัวรุนแรง ตาพร่ามัว หรือบวมฉับพลัน

คำถามที่พบบ่อย

กำหนดคลอดแม่นยำแค่ไหน?
มีเพียง 5% ของทารกที่คลอดตรงกำหนด ประมาณ 80% คลอดภายใน 2 สัปดาห์ก่อนหรือหลังกำหนด กำหนดคลอดจากอัลตราซาวด์ไตรมาสแรกแม่นยำที่สุด (±5-7 วัน)
ถ้ารอบเดือนไม่สม่ำเสมอล่ะ?
หากรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ กำหนดคลอดจาก LMP อาจไม่แม่นยำ แนะนำให้ทำอัลตราซาวด์ไตรมาสแรกเพื่อกำหนดวันที่แม่นยำกว่า
กำหนดคลอดเปลี่ยนได้ไหม?
ได้ แพทย์อาจปรับกำหนดคลอดตามผลอัลตราซาวด์ โดยเฉพาะหากมีความแตกต่างมากกว่า 7-10 วันจากการคำนวณจาก LMP
เกิดอะไรขึ้นถ้าเกินกำหนด?
การตั้งครรภ์เกินกำหนดเป็นเรื่องปกติถึง 42 สัปดาห์ หลังจากนั้น แพทย์มักแนะนำให้เร่งคลอดเนื่องจากความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น
กำหนดคลอดเป็นค่าประมาณ ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อข้อมูลที่แม่นยำกว่า