ปี
ซม.
กก.
แคลอรีทั้งหมดต่อวัน (TDEE)
--
กิโลแคล/วัน
📊 รายละเอียดการเผาผลาญแคลอรี
BMR (60-70%) --
กิจกรรมทางกาย (15-30%) --
TEF - การย่อยอาหาร (10%) --
BMR (อัตราเผาผลาญพื้นฐาน) --
แคลอรีต่อสัปดาห์ --
แคลอรีต่อเดือน --
🎯 เป้าหมายตามวัตถุประสงค์
ลด 0.5 กก./สัปดาห์ --
ลด 1 กก./สัปดาห์ --
รักษาน้ำหนัก --
เพิ่ม 0.5 กก./สัปดาห์ --
ℹ️ ส่วนประกอบของ TDEE

BMR (60-70%): แคลอรีสำหรับการทำงานพื้นฐานของร่างกายขณะพัก


กิจกรรมทางกาย (15-30%): แคลอรีจากการออกกำลังกายและกิจกรรมประจำวัน


TEF - Thermic Effect of Food (10%): แคลอรีสำหรับการย่อยอาหาร

TDEE คืออะไร?

TDEE (Total Daily Energy Expenditure) คือจำนวนแคลอรีทั้งหมดที่คุณเผาผลาญในหนึ่งวัน รวมทุกกิจกรรมตั้งแต่การหายใจขณะนอนหลับจนถึงการออกกำลังกายหนัก การเข้าใจ TDEE เป็นกุญแจสำคัญในการจัดการน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะลด เพิ่ม หรือรักษาน้ำหนัก

ต่างจาก BMR ที่วัดแคลอรีขณะพักผ่อนเท่านั้น TDEE ให้ภาพรวมความต้องการพลังงานต่อวันตามวิถีชีวิตและระดับกิจกรรมของคุณ

ส่วนประกอบของ TDEE

TDEE ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักหลายส่วน:

1. BMR - Basal Metabolic Rate (60-70%)

แคลอรีที่ต้องการสำหรับการทำงานสำคัญของร่างกายขณะพักผ่อนเต็มที่ รวมถึง:

  • การหายใจและการไหลเวียนโลหิต
  • การทำงานของสมองและระบบประสาท
  • การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
  • การเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์

2. TEF - Thermic Effect of Food (10%)

พลังงานที่ใช้ในการย่อย ดูดซึม และประมวลผลอาหาร:

  • โปรตีน: 20-30% ของแคลอรีใช้ในการย่อย
  • คาร์โบไฮเดรต: 5-10% ของแคลอรีใช้ในการย่อย
  • ไขมัน: 0-3% ของแคลอรีใช้ในการย่อย

3. NEAT - Non-Exercise Activity Thermogenesis (15-20%)

แคลอรีจากกิจกรรมประจำวันที่ไม่ใช่การออกกำลังกาย:

  • เดิน ยืน พูดคุย
  • งานบ้าน
  • การขยับไปมาโดยไม่รู้ตัว (Fidgeting)
  • พิมพ์ เขียน

4. EAT - Exercise Activity Thermogenesis (5-15%)

แคลอรีจากการออกกำลังกายตามแผน เช่น ฟิตเนส วิ่ง ว่ายน้ำ ฯลฯ

วิธีคำนวณ TDEE

TDEE คำนวณโดยการคูณ BMR ด้วยตัวคูณกิจกรรม:

TDEE = BMR × ตัวคูณกิจกรรม
ระดับกิจกรรม ตัวคูณ รายละเอียด
ไม่ค่อยเคลื่อนไหว 1.2 ทำงานออฟฟิศ แทบไม่ออกกำลังกาย
เบา 1.375 ออกกำลังกายเบา 1-3 วัน/สัปดาห์
ปานกลาง 1.55 ออกกำลังกายปานกลาง 3-5 วัน/สัปดาห์
หนัก 1.725 ออกกำลังกายหนัก 6-7 วัน/สัปดาห์
หนักมาก 1.9 ออกกำลังกายหนักมาก + งานใช้แรง

TDEE สำหรับการจัดการน้ำหนัก

สำหรับลดน้ำหนัก:

ขาดดุลแคลอรี = TDEE - เป้าหมายแคลอรีต่อวัน

• ขาดดุล 500 กิโลแคล/วัน = ลด ~0.5 กก./สัปดาห์
• ขาดดุล 750 กิโลแคล/วัน = ลด ~0.75 กก./สัปดาห์
• ขาดดุล 1000 กิโลแคล/วัน = ลด ~1 กก./สัปดาห์ (สูงสุด)

สำหรับเพิ่มน้ำหนัก:

เกินดุลแคลอรี = เป้าหมายแคลอรี - TDEE

• เกินดุล 300-500 กิโลแคล/วัน = เพิ่ม ~0.25-0.5 กก./สัปดาห์ (lean bulk)
• เกินดุล 500-1000 กิโลแคล/วัน = เพิ่ม ~0.5-1 กก./สัปดาห์ (bulk เร็ว)

สำหรับรักษาน้ำหนัก:

กินแคลอรีเท่ากับ TDEE ของคุณ น้ำหนักจะคงที่ตราบใดที่แคลอรีที่กินสมดุลกับที่ใช้

เคล็ดลับเพิ่ม TDEE

  1. เพิ่ม NEAT: เดินมากขึ้น ใช้บันได ยืนขณะทำงาน
  2. สร้างมวลกล้ามเนื้อ: กล้ามเนื้อเผาผลาญแคลอรีมากกว่าขณะพัก
  3. ออกกำลังกาย HIIT: ให้ผล afterburn (EPOC) ที่เพิ่มการเผาผลาญ
  4. กินโปรตีนสูง: TEF ของโปรตีนสูงกว่าคาร์โบไฮเดรตหรือไขมัน
  5. อย่านั่งนานเกินไป: ลุกขึ้นเคลื่อนไหวทุก 30-60 นาที

ความผิดพลาดที่พบบ่อยในการคำนวณ TDEE

  • ประเมินกิจกรรมสูงเกินไป: คนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองกระฉับกระเฉงกว่าความเป็นจริง
  • ไม่ปรับตามเวลา: TDEE เปลี่ยนเมื่อน้ำหนักหรือกิจกรรมเปลี่ยน
  • ละเลย NEAT: กิจกรรมที่ไม่ใช่การออกกำลังกายแตกต่างกันมากในแต่ละคน
  • ใช้ผลลัพธ์เป็นตัวเลขตายตัว: TDEE เป็นการประมาณที่อาจคลาดเคลื่อน ±10%

คำถามที่พบบ่อย

TDEE เฉลี่ยของผู้ใหญ่เท่าไหร่?
TDEE แตกต่างกันมาก ผู้หญิงผู้ใหญ่ที่มีกิจกรรมปานกลางมี TDEE เฉลี่ยประมาณ 1800-2200 กิโลแคล/วัน ส่วนผู้ชายผู้ใหญ่ประมาณ 2200-2800 กิโลแคล/วัน
TDEE เปลี่ยนเมื่อลดน้ำหนักไหม?
ใช่ เมื่อคุณลดน้ำหนัก TDEE จะลดลงเพราะร่างกายเบาลงและต้องการพลังงานน้อยลง นอกจากนี้ร่างกายยังปรับตัวโดยชะลอเมตาบอลิซึม (adaptive thermogenesis)
ควรกินเท่า TDEE ทุกวันไหม?
ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ เพื่อรักษาน้ำหนัก กินเท่า TDEE เพื่อลดน้ำหนัก กินน้อยกว่า TDEE เพื่อเพิ่มน้ำหนัก กินมากกว่า TDEE
ควรคำนวณ TDEE ใหม่บ่อยแค่ไหน?
คำนวณ TDEE ใหม่ทุกครั้งที่น้ำหนักเปลี่ยน 5 กก. ขึ้นไป หรือเมื่อระดับกิจกรรมเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ ระหว่างลดน้ำหนัก ประเมินทุก 4-6 สัปดาห์
TDEE เป็นการประมาณ ค่าจริงอาจแตกต่าง ±10% ขึ้นอยู่กับเมตาบอลิซึมของแต่ละบุคคล