ปี
ซม.
กก.
ความต้องการแคลอรีต่อวัน (TDEE)
--
กิโลแคล/วัน
🎯 เป้าหมายแคลอรีตามวัตถุประสงค์
ลดน้ำหนัก
ขาดดุล 500 กิโลแคล (-0.5 กก./สัปดาห์)
--
ลดน้ำหนักเร็ว
ขาดดุล 1000 กิโลแคล (-1 กก./สัปดาห์)
--
รักษาน้ำหนัก
แคลอรีสมดุล
--
เพิ่มน้ำหนัก
เกินดุล 500 กิโลแคล (+0.5 กก./สัปดาห์)
--
BMR (อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน) --
ตัวคูณกิจกรรม --
ℹ️ เกี่ยวกับแคลอรี

TDEE (Total Daily Energy Expenditure) คือแคลอรีทั้งหมดที่คุณเผาผลาญต่อวัน รวมถึงกิจกรรมทางกาย


BMR (Basal Metabolic Rate) คือแคลอรีที่ร่างกายต้องการขณะพักผ่อนสมบูรณ์


เคล็ดลับ:

  • ขาดดุล 500 กิโลแคล/วัน = ลด ~0.5 กก./สัปดาห์
  • อย่าขาดดุลมากกว่า 1000 กิโลแคล/วัน
  • ผู้หญิงขั้นต่ำ 1200 กิโลแคล ผู้ชายขั้นต่ำ 1500 กิโลแคล

แคลอรีคืออะไร?

แคลอรีคือหน่วยของพลังงานที่ใช้วัดปริมาณพลังงานในอาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภค ในทางเทคนิค หนึ่งแคลอรีคือปริมาณพลังงานที่ต้องใช้เพื่อเพิ่มอุณหภูมิน้ำหนึ่งกรัมขึ้น 1 องศาเซลเซียส ในบริบทโภชนาการ เรามักใช้กิโลแคลอรี (กิโลแคล) หรือ Calorie ตัวใหญ่

ร่างกายต้องการแคลอรีเพื่อทำหน้าที่สำคัญทั้งหมด ตั้งแต่การหายใจ สูบฉีดเลือด ย่อยอาหาร ไปจนถึงกิจกรรมทางกายประจำวัน ความสมดุลระหว่างแคลอรีที่เข้าและออกจะกำหนดว่าน้ำหนักของคุณจะเพิ่มขึ้น ลดลง หรือคงที่

ทำความเข้าใจความต้องการแคลอรีต่อวัน

ความต้องการแคลอรีต่อวันของแต่ละคนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:

  • อายุ: การเผาผลาญมักช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น
  • เพศ: ผู้ชายโดยทั่วไปต้องการแคลอรีมากกว่าผู้หญิง
  • ส่วนสูงและน้ำหนัก: ร่างกายที่ใหญ่กว่าต้องการพลังงานมากกว่า
  • ระดับกิจกรรม: ยิ่งเคลื่อนไหวมาก ยิ่งต้องการแคลอรีมาก
  • องค์ประกอบร่างกาย: กล้ามเนื้อเผาผลาญแคลอรีมากกว่าไขมัน

สูตร Mifflin-St Jeor: มาตรฐานทองคำในการคำนวณแคลอรี

เครื่องคำนวณแคลอรีของเราใช้สูตร Mifflin-St Jeor ซึ่งถือว่าแม่นยำที่สุดในการคำนวณ BMR (Basal Metabolic Rate) สูตรนี้พัฒนาขึ้นในปี 1990 และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าแม่นยำกว่าสูตรเก่าอย่าง Harris-Benedict

ชาย: BMR = (10 × น้ำหนัก กก.) + (6.25 × ส่วนสูง ซม.) - (5 × อายุ) + 5

หญิง: BMR = (10 × น้ำหนัก กก.) + (6.25 × ส่วนสูง ซม.) - (5 × อายุ) - 161

ตัวคูณกิจกรรมในการคำนวณ TDEE

หลังจากได้ BMR แล้ว นำมาคูณกับตัวคูณกิจกรรมเพื่อได้ TDEE (Total Daily Energy Expenditure):

ระดับกิจกรรม ตัวคูณ ตัวอย่าง
ไม่ค่อยเคลื่อนไหว 1.2 งานออฟฟิศ ไม่ออกกำลังกาย
ออกกำลังกายเบา 1.375 ออกกำลังกายเบา 1-3 ครั้ง/สัปดาห์
ออกกำลังกายปานกลาง 1.55 ออกกำลังกาย 3-5 ครั้ง/สัปดาห์
ออกกำลังกายหนัก 1.725 ออกกำลังกายหนัก 6-7 ครั้ง/สัปดาห์
ออกกำลังกายหนักมาก 1.9 ออกกำลังกายหนักมาก / งานใช้แรง

แคลอรีสำหรับลดน้ำหนัก

หลักการพื้นฐานของการลดน้ำหนักคือการสร้างการขาดดุลแคลอรี คือเผาผลาญแคลอรีมากกว่าที่บริโภค ต่อไปนี้คือแนวทางทั่วไป:

  • ขาดดุล 500 กิโลแคล/วัน: ลด ~0.5 กก. ต่อสัปดาห์ (แนะนำ ปลอดภัย)
  • ขาดดุล 750 กิโลแคล/วัน: ลด ~0.75 กก. ต่อสัปดาห์
  • ขาดดุล 1000 กิโลแคล/วัน: ลด ~1 กก. ต่อสัปดาห์ (ขีดจำกัดสูงสุด)

⚠️ สำคัญ: อย่าบริโภคแคลอรีต่ำกว่า BMR ของคุณในระยะยาว ผู้หญิงไม่ควรบริโภคน้อยกว่า 1200 กิโลแคล/วัน และผู้ชายไม่ควรน้อยกว่า 1500 กิโลแคล/วัน โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์

แคลอรีสำหรับเพิ่มน้ำหนัก

เพื่อเพิ่มน้ำหนักอย่างมีสุขภาพ คุณต้องสร้างการเกินดุลแคลอรี:

  • เกินดุล 300-500 กิโลแคล/วัน: เพิ่มน้ำหนักทีละน้อยและมีสุขภาพดี
  • เน้นโปรตีน: 1.6-2.2 กรัมโปรตีนต่อน้ำหนักตัว 1 กก. เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ
  • ผสมผสานกับการยกน้ำหนัก: เพื่อให้น้ำหนักที่เพิ่มเป็นกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ไขมัน

ประเภทของแคลอรี: แคลอรีทุกชนิดเหมือนกันหรือไม่?

จากมุมมองพลังงาน แคลอรีทั้งหมดเหมือนกัน แต่จากมุมมองสุขภาพและโภชนาการ แหล่งที่มาของแคลอรีสำคัญมาก:

สารอาหารหลักและปริมาณแคลอรี:

สารอาหารหลัก แคลอรีต่อกรัม หน้าที่หลัก
โปรตีน 4 กิโลแคล สร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
คาร์โบไฮเดรต 4 กิโลแคล แหล่งพลังงานหลัก
ไขมัน 9 กิโลแคล พลังงาน ดูดซึมวิตามิน ฮอร์โมน
แอลกอฮอล์ 7 กิโลแคล ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ

เคล็ดลับจัดการปริมาณแคลอรี

  1. จดบันทึกอาหาร: ใช้แอปนับแคลอรีเพื่อติดตามปริมาณที่รับประทาน
  2. ใส่ใจปริมาณ: ขนาดมื้อมักใหญ่กว่าที่แนะนำ
  3. อ่านฉลากโภชนาการ: สังเกตปริมาณแคลอรีต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
  4. เลือกอาหารที่อุดมด้วยสารอาหาร: อาหารที่แคลอรีต่ำแต่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
  5. อย่าข้ามมื้อเช้า: ช่วยควบคุมความอยากอาหารตลอดวัน
  6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: บางครั้งความกระหายถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความหิว

คำถามที่พบบ่อย

ฉันควรบริโภคแคลอรีวันละเท่าไหร่?
ความต้องการแคลอรีแตกต่างกันในแต่ละคน โดยเฉลี่ย ผู้หญิงผู้ใหญ่ต้องการประมาณ 1800-2200 กิโลแคล/วัน ในขณะที่ผู้ชายผู้ใหญ่ต้องการ 2200-2800 กิโลแคล/วัน ใช้เครื่องคำนวณด้านบนเพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะกับตัวคุณ
ต้องนับแคลอรีเพื่อลดน้ำหนักหรือไม่?
การนับแคลอรีสามารถช่วยให้เข้าใจรูปแบบการกินของคุณ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่าคือคุณภาพอาหารและนิสัยการกินที่ดีในระยะยาว
แคลอรีทุกชนิดมีผลต่อน้ำหนักเท่ากันหรือไม่?
ในทางคณิตศาสตร์ ใช่ อย่างไรก็ตาม แหล่งที่มาของแคลอรีส่งผลต่อความอิ่ม การเผาผลาญ และสุขภาพโดยรวม 200 แคลอรีจากผักจะทำให้คุณอิ่มนานกว่า 200 แคลอรีจากขนมหวาน
กินน้อยมากๆ เพื่อลดน้ำหนักเร็วได้ไหม?
ไม่แนะนำ การกินแคลอรีต่ำมาก (<1200 กิโลแคลสำหรับผู้หญิง <1500 กิโลแคลสำหรับผู้ชาย) สามารถชะลอการเผาผลาญ ทำให้ขาดสารอาหาร และทำให้การลดน้ำหนักระยะยาวยากขึ้น
ผลลัพธ์คำนวณด้วยสูตร Mifflin-St Jeor ปรึกษานักโภชนาการสำหรับแผนอาหารที่เหมาะสม